ฟอนต์ ภาษา อังกฤษ เท่ ๆ: ขั้นตอนการเลือกฟอนต์ที่สวยงามที่สุด
ฟอนต์ ภาษา อังกฤษ เท่ ๆ: ขั้นตอนการเลือกฟอนต์ที่สวยงามที่สุด
พอดีที่เราคุ้นเคยกับโลกของฟอนต์ ภาษา อังกฤษไปแล้ว แต่ บางคนอาจไม่รู้ว่าการเลือกฟอนต์ที่สวยงามที่สุด นั้นต้องใช้วิธีการอะไรบ้าง และฟอนต์ที่เหมาะกับงานออกแบบแบบไหนบ้าง ในบทความนี้จะพูดถึงขั้นตอนการเลือกฟอนต์ และฟอนต์ที่เหมาะกับงานออกแบบในภาษาอังกฤษ
ขั้นตอนการเลือกฟอนต์
1. กำหนดสไตล์
สิ่งแรกที่ต้องกำหนดเมื่อเริ่มต้นการเลือกฟอนต์ คือสไตล์ของงานออกแบบ ว่าเราต้องการสไตล์ธรรมดา หรือ สไตล์ที่มีการเขียนเส้นเอียง หรือสไตล์ที่คล้ายคลึงกับอักษรดั้งเดิมจากอดีต เพราะสไตล์ของฟอนต์นั้นมีบทบาทด้านมากในการสร้างจุดเด่นในงานออกแบบ
2. เลือกฟอนต์ที่เหมาะกับเนื้อหา
ควรคำนึงถึงความเหมาะสมของฟอนต์ต่อเนื้อหาที่ต้องการเขียน เช่น การเขียนหัวข้อ หรือ ตัวอักษรพิเศษ เป็นต้น แต่ถ้าเป็นงานเนื้อหาที่มีการเขียนเยอะๆ เช่น งานโปรแกรม ควรเลือกฟอนต์ที่โดดเด่นและอ่านง่าย เพื่อไม่ให้เบลอตาหากทำงานนั้นหลายชั่วโมง
3. อย่าเลือกฟอนต์เป็นจำนวนมาก
อย่าเลือกฟอนต์เป็นจำนวนมากในงานออกแบบภายในเดียวกัน เพราะจะทำให้งานดูยุ่งเหยิงและไม่สมดุลกัน โดยควรจำกัดจำนวนเพียง 2-3 ฟอนต์เท่านั้น
4. ระยะห่างของตัวหนังสือ
ควรคำนึงถึงระยะห่างของตัวหนังสือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้งานดูสมดุลกันและมีความเรียบร้อย ต้องระมัดระวังการใช้ระยะห่างที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้ตัวหนังสือเป็นขนาดเล็กมากๆ จนเกินกว่าจะอ่านได้
5. ทดสอบกับสื่อต่างๆ
ก่อนนำฟอนต์มาใช้ในงานจริง ควรทดสอบกับสื่อต่างๆ เช่น หนังสือ แผ่นพับ และเว็บไซต์ เพื่อตรวจสอบว่าฟอนต์ที่เลือกสามารถใช้งานได้ดีบนทุกสื่อหรือไม่
6. หาฟอนต์ที่ไม่ต้องใช้เงิน
ถึงแม้ว่าฟอนต์ก็ไม่ใช่ไฟล์แค่นึงแต่ก็ไม่ควรเสียเงินในการซื้อฟอนต์ ยังมีฟอนต์ที่ไม่ต้องใช้เงินสามารถนำมาใช้งานได้ฟรี เช่น Google Fonts ที่มีฟอนต์หลายแบบให้เลือกทั้งฟอนต์ไทยและฟอนต์ต่างประเทศ
ฟอนต์ที่เหมาะกับงานออกแบบในภาษาอังกฤษ
1. Helvetica
Helvetica เป็นฟอนต์ที่เป็นที่รู้จักกันมากในโลกอินเตอร์เน็ตและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี สัญลักษณ์มหัศจรรย์ทำให้ Helvetica เป็นฟอนต์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
2. Garamond
Garamond เป็นฟอนต์ที่มีลักษณะอักษรโบราณ ด้วยความเรียบง่ายและความโดดเด่นของอักษร แบบ serif ทำให้ Garamond เหมาะสำหรับงานออกแบบเอกสารที่ชิ้นโบราณๆ
3. Futura
Futura เป็นฟอนต์ที่มีลักษณะตัวหนังสือเป็นเวอร์ชันโมเดิร์นของ Garamond ด้วยน้ำหนักและการจัดวางศูนย์กลางที่ทำให้ Futura เหมาะสำหรับงานออกแบบเว็บไซต์และโปสเตอร์โฆษณา
4. Times New Roman
Times New Roman เป็นฟอนต์ที่นิยมใช้ในเอกสารในการเขียนวิจารณ์หนังสือและบทความ มีลักษณะเป็นจุดเด่นด้านความเข้าใจและอ่านง่าย
5. Calibri
Calibri เป็นฟอนต์ที่มีรูปแบบ Modern Sans-Serif ที่สมบูรณ์แบบ แต่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของฟอนต์ โดยมีการกำหนดช่องว่างและตัวอักษรอย่างเหมาะสมทั้งในการอ่านและการเขียน
FAQs
Q1: สุดยอดฟอนต์อะไรที่เหมาะกับงานออกแบบเว็บไซต์?
A1: ฟอนต์ที่เหมาะสำหรับงานออกแบบเว็บไซต์ได้แก่ Helvetica, Arial, Verdana และ Tahoma เป็นต้น
Q2: ฟอนต์อะไรที่เหมาะกับการพิมพ์หนังสือ?
A2: ฟอนต์ที่เหมาะสำหรับการพิมพ์หนังสือได้แก่ Garamond, Times New Roman, และ Baskerville เป็นต้น
Q3: ทำไมฟอนต์ในเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องสำคัญหลักในการออกแบบเว็บไซต์?
A3: ฟอนต์ในเว็บไซต์คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ดูสมดุลและมีความเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางในการแสดงผลข้อความและสื่อต่างๆ บนเว็บไซต์
Q4: ฟอนต์ที่เหมาะกับงานธุรกิจคืออะไร?
A4: ฟอนต์ที่เหมาะสำหรับงานต่างๆ ในธุรกิจได้แก่ Calibri, Times New Roman, Helvetica และ Arial เป็นต้น โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของฟอนต์กับสไตล์ของธุรกิจของแต่ละบริษัท